อี
สปเชื่อกันว่าอีสปมีชีวิตอยู่ในช่วงเดียวกับพระพุทธเจ้า
คือมีชีวิตอยู่เมื่อราว 77-17 ปีก่อน
พุทธศักราช หรือ620-560 ปีก่อนคริสตศักราช ตามตำนานกล่าวว่าเกิดที่เมืองฟรีเยียอันเป็นบริเวณที่ทวีปเอเชียต่อชนกับทวีปยุโรป
ซึ่งยุคนั้นเจริญรุ่งเรืองมากเป็นแหล่งรวมพ่อค้าวาณิช,ทูตานุทูต,นักท่องเที่ยวและการค้าทาส บางตำนานบอกว่าอีสปอาจจะมาจาก
เมืองเทรซ ไพรเกีย
เอธิโอเปีย ซามอส เอเธนส์ หรือเมืองซาร์ดิส
ซึ่งไม่ยืนยันแน่นอน
ในชั้นเดิมอีสปมีฐานะเป็นทาสอยู่ที่เมืองซามอส (samos) ประเทศกรีซ เป็นทาสของอิดมอน ซึ่งได้มอบหน้าที่ให้เป็นครู
สอนหนังสือให้ลูกๆของเขา บ้านของอิดมอนเป็นแหล่งพบปะสังสรรค์ของหมู่คนสำคัญของกรีก อีสปจึงมีโอกาสพบเห็นและสังเกต
อุปนิสัยคน
อิดมอนมักจะนำอีสปไปด้วยเสมอเมื่อออกสังคมและอีสปก็มักได้เล่านิทานให้พวกเขาเหล่านั้นฟังซึ่งก็เป็นที่ชื่นชอบ
คามาริอุส ( Camarius) ผู้เขียนประวัติอีสปได้พรรณาว่าอีสปเป็นคนรูปอัปลักษณ์ผิดมนุษย์ ผิวดำมืด จมูกบี้ ปากแบะ
ลิ้นคับปาก หลังงุ้ม เวลาพูดฟังไม่ไคร่ออกว่าเขาพูดกระไร แต่ผู้ฟังนิทานก็ชื่นชอบในเนื้อหา
ข้อคิดและคติเตือนใจ
เมื่อได้รับอิสรภาพ อีสปได้เข้าอาศัยในวังของกษัตริย์ครีซุส ทำให้ได้พบกับนักปราชญ์และรัฐบุรุษของเอเธนส์มากมาย อีสปเคย
ได้อาศัยอยู่ในสำนักของนักปราชญ์ โซมอล ญาติของผู้ครองนครเอเธนส์ ซึ่งเมื่อครั้งที่ผู้คนจะขับ ปีซัสเครตัส ออกจากตำแหน่งผู้ปก
ครองนครเอเธนส์ อีสปก็ได้เล่านิทานเรื่อง กบเลือกนาย ขึ้นที่นี่ ทำให้ชาวเมืองล้มเลิกความตั้งใจ อีสปได้แสดงความคิดเห็น
ด้านการปกครองและเล่านิทานอุปมาอุปมัยไว้หลายเรื่องที่สำนักปราชญ์แห่งนี้
ตัวละครในนิทานของอีสปส่วนใหญ่เป็นสัตว์ เช่นราชสีห์อันหมายถึงหรือเป็นตัวแทนของผู้มีอำนาจผู้ปกครอง หนูหมายถึง
ผู้ต่ำต้อย ลาหมายถึงผู้ด้อยปัญญา
และสุนัขจิ้งจอกหมายถึงคนเจ้าเล่ห์
นิทานของอีสป เป็นเรื่องเล่าปากเปล่า ไม้ได้มีการจดบันทึกเป็นหลักฐาน จนศตวรรษต่อๆมาจึงได้มีผู้บันทึกเอาไว้
จะเห็นได้จากหลักฐานของแผ่นปาปิรัสโบราณ ฟีดรัส ทาสชาวมาซีโดเนียนในยุคจักรพรรดิออกุสตุสแห่งโรมัน เป็นผู้หนึ่งที่ได้รวบรวม
หลักฐานนิทานของอีสปไว้เป็นภาษาลาติน บางตำนานบอกว่า ชาวกรีกผู้หนึ่งชื่อ เดมิตริอุส ได้รวบรวมนิทานของอีสปเขียน
เป็นหนังสือไว้เมื่อราว 300 ปีก่อนคริสตศักราช ต่อมาก็ได้มีผู้เขียนขึ้นใหม่อีกหลายคน และเมื่อ ค.ศ.1400 พระชื่อ มาซิมุส พลานูด
ได้แปลนิทานของอีสปจากภาษาลาตินมาเป็นภาษาอังกฤษ นับแต่นั้นมาชาวยุโรปได้แปลนิทานของอีสปเป็นภาษาของตนจนแพร่หลาย
ไปทั่วโลก ซึ่งส่วนใหญ่จะดัดแปลงเนื้อหาให้เข้ากับสภาพบ้านเมืองของตน แต่คติและข้อคิดอันเป็นหัวใจของเรื่องยังคงได้รับการรักษา
เอาไว้
ลาฟองแตน นักเล่านิทานที่มีชื่อเสียงที่สุดคนหนึ่งของโลกชาวฝรั่งเศส เป็นคนหนึ่งที่ทำให้นิทานอีสปแพร่หลายสูงสุดนิทาน
ของเขาจะเขียนเป็นคำกลอนซึ่งเด็กๆฝรั่งเศสจำได้ขึ้นใจ และได้รับการแปลเป็นภาษาต่างๆมากมาย นิทานของเขามีทั้งแต่งขึ้นเองและ
ดัดแปลงจากของอีสป
จนยากจะแยกแยะ นิทานอีสปมีนับพันเรื่อง
ซึ่งยากจะระบุว่าเรื่องใดใช่หรือไม่ใช่นิทานของอีสป
ไม่มีหลักฐานแน่ชัดว่าอีสปมีอายุยืนยาวเท่าไรและตายเพราะเหตุใด นักประวัติศาสตร์บางท่านปฏิเสธว่าอีสปไม่ได้มีตัวตนอยู่จริง
แต่มีพระองค์หนึ่งที่กรุงคอนสแตนติโนเปิล ชื่อว่า แมกซิมุส พลานุเดซ เขียนบันทึกไว้ในศตวรรษที่ 14 ว่าอีสปมีตัวตนจริงโดยพรรณนา
รูปร่างลักษณะของอีสปตรงกับที่ คามิอุส
บันทึกไว้และตรงกับรูปปั้นหินอ่อนอีสปที่ วิลลา อัลบานี
ในกรุงโรมทุกประการ
ในเมืองไทย พระจรัส ชวนะพันธุ์ (สาตร์) ได้กล่าวไว้ใน คำชี้แจงของผู้แต่ง (ลงวันที่ 22 ธันวาคม ร.ศ.130) จากหนังสือ
นิทานอีสปของกระทรวงศึกษาธิการว่า หนังสือนิทานอีสปเล่มนี้พระบรมวงศ์เธอกรมพระยาดำรงราชานุภาพ ทรงเป็นผู้ทรงแนะนำให้
ข้าพเจ้าแต่งขึ้นให้ใช้ภาษาง่ายๆ และประโยคสั้นๆ สำหรับเด็กในชั้นมูลศึกษาจะได้ใช้เป็นแบบสอนอ่านเมื่อเรียนแบบเรียนมูลศึกษาจบแล้ว
ในปัจจุบันได้มีผู้แปลและเรียบเรียงนิทานอีสปเป็นภาษาไทยมากมายหลายเล่ม ทั้งที่รวบรวมไว้เล่มละหลายๆเรื่อง และแยกเป็นเล่มละ
เรื่องวาดภาพประกอบ
หรือจัดพิมพ์จำหน่ายในแนวนิทานภาพสำหรับเด็กซึ่งได้รับความสนใจจากผู้อ่าน
สืบเนื่องเสมอมา
ท่านสามารถพบของจริงได้จาก
อมตะนิทานอีสป
รวมนิทานคติสอนใจ
272
เรื่อง
ซึ่งจัดพิมพ์โดย สุวีริยาสาส์น เมื่อพ.ศ.2541 เรียบเรียงโดย ธนากิต
หาซื้อได้ที่อื่น และที่
ร้านบูรพาสาส์น
ใกล้โรงละคอนเฉลิมกรุง
ต้นถนนเจริญกรุง
กรุงเทพฯ พระนคร