อาละดินกับตะเกียงวิเศษ
หลังจากลอกนิทานอีสปมาให้ดูแล้ว ก็เลยคิดจะทดลองเขียนนิทานที่หนำใจตัวเองมาให้อ่าน เอากันแบบยืดเยื้อ สยองขนชวนติดตาม
แต่อีรอบนี้ทำไม่เป็นแฮะ นั่งทบทวนฝีมือดูแล้วสรุปความได้ว่า....ลอกเขามาอีกเหอะเพราะ โนไอเดียร์.....นี่ไงพอปากกาอยู่ในมือก็อยากจะกัดโน่นกัดนี่
แต่กัดไม่เป็น...เหมือนกันไปหมด
อาละดิน ที่พอถูตะเกียงวิเศษก็จะมียักษ์หล่นออกมา แล้วอาละดินจะใช้ให้ทำอะไรก็ได้ พอจบงานยักษ์ก็กลับเข้าตะเกียงไป ดังนั้นวันๆหนึ่ง
จะเขียนเรื่องกี่มหัศจรรย์ก็ง่ายนิดเดียว โม้มันไปเรื่อยเปื่อย เหนื่อยก็พัก ...เริ่มจะเข้าท่าแฮะ รีบวิ่งไปซื้อข้อมูลโน่นเลย...ศึกษาภัณฑ์ แหล่งขายการ์ตูน
......ตรงดิ่งไปถนนหลานหลวงทะลุออกราชดำเนินสี่แยกคอกวัว
เหมือนเดิมเลย รถติดระเบิดเลย 11 โมงเองทำไมมันติดมากมายจริงหนอ ดูเหมือนติดกว่าเดิมๆนะ ถนนหลานหลวงก็ไถผิวออกหลายรอย
เตรียมปะผิวรับเอเปค...ตอนนี้ชาวเอเปคเริ่มทะยอยมากันมากแล้ว พอวิ่งอ้อมสาวรีย์ประชาธิปไตยก็โอ้โหเลบ...ซ้ายมือคนหรือหนอน แน่นไปหมด...
ว้าย..ว้าย...นี่มัน 14 ตุลานี่หว่า..มิน่าล่ะ...แอบมั่วจอดลงไปดูดีกว่า ที่บ้านเลขที่ ๑๔ / ๑๖ แน่นเลยทั้งนักเรียน,รัฐวิสาหกิจพวกรถไฟ,กฟผ,การเคหะ,เอกชน
วันนี้มีวางหรีด มีอภิปรายเบาๆและโดยรอบทั้ง 4 ด้านมีบอร์ดติดรูปอดีต 30 ปีที่แล้วให้ชม เห็นแล้วเซ่อเลย...นึกไม่ออกว่ารู้สึกยังไง ใครไม่เห็น หากอยากดู
ก็ไปหาซื้อซีดีมาดูก็ได้...ดูแล้วอย่าเพิ่งตื้นตันจนเพลิน ลองนึกว่าถ้าอยู่ร่วมเหตุการณ์จะทำไง ? หรือ ทุกวันนี้จะทำไง ? มีอยู่รูปนึง "เผาตึกกองสลาก"
บรรยายรูปไว้ว่า..."แหล่งอบายมุขต้นเหตุสลากกินรวบ เผามันเสีย" เห็นแล้วหวาดเสียว เพราะถัดป้ายไป 2 วา เป็นอาคารและแผงขายหวย คนซื้อ (รวมคนขาย)
เทียบกับคนอ่านป้าย..."ดู๋ ดี๋"...
...คนไทยใจดี พลุ่งพล่านง่าย หายเร็ว...
เดินข้ามไปฝั่งโน้น ศึกษาภัณฑ์ รีบงม หาเดอะอาละดิน เจอแค่ 1 เล่ม..อาลาดินหนุ่มชาวแบกแดด อาศัยอยู่กับมารดาที่ยากจน เขามีอาชีพรับจ้างทั่วไป...ไม่รับทุบตึก....อยู่มาวันหนึ่งมีชายชราคนหนึ่งแนะให้เขาลงไปในหลุมสมบัติเพื่อหยิบตะเกียงเก่าๆ 1ลูกให้ชายชรา....อาลาดิน งง ผมก็ งง ชายชราต้องการชิ้นเดียวแค่นั้นเองอาลาดินหยิบแหวนวงหนึ่งสวมนิ้วแล้วหยิบตะเกียงมาถือไว้...ไม่ถู...พอชายชราบอกให้ส่งตะเกียงขึ้นไป อาลาดินมัวแต่คิดว่า งง ชายชราเลยโกรธ แล้วก็เอาหินปิดปากหลุมไว้เลย....อาลาดินมืด แต่ไม่จุดตะเกียง มือเขาถูโดนแหวนวงนั้น..แล้วยักษ์อีกตัวหนึ่ง (ไม่ใช่ตัวบนหน้าจอนะ) ก็ออกมาพร้อมกับ "จ้าวนายมีอะไรให้รับใช้ สั่งมาได้เลย ข้าทำได้ทุกอย่างยกเว้นสู้กับยักษ์ที่อยู่ในตะเกียงไม่ไหวเท่านั้น"....นั่นแหละ ให้ยักษ์ทำโน่นทำนี่ กว่ายักษ์แก่ตายก็คงโม้มาให้อ่านได้สัก 1ล้านเรื่องมั้ง...
อีตานี้ ดันแว่บเห็น "นิทานอีสป" อีกเล่มไม่ใช่เล่มที่เคยซื้อไปนะ นิทานพวกนี้มาจากต่างภาษาแล้วพอเขาแปลเป็นไทยเนี่ย จะเหมือนเล่มที่ซื้อไปไหม ?
..ไม่เหมือน...
เนื้อเรื่องยืดได้แฮะ...ยืดดด ยาวกว่าเดิม สิงโตพูดมากขึ้น เจ้าหนูก็พูดมากและแปลกไป...คือกลายเป็นว่า..?..ราชสีห์มีบุญคุณต่อหนู แต่ที่แปลกกว่ากลับเป็นตรงสรุป
เล่มนี้สรุปว่า "นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า แม้แต่ผู้เลวทรามก็อย่าได้ดูถูก ถ้าเราทำดีแก่เขา เขาอาจจะแทนคุณเราได้"....มาแบบนี้ "อาลาดิน" เป็น งง คือหากตำราที่อ่านแล้วแปลมาโต้งๆ ใช้สอนเด็กแล้วมันให้อุธาหรณ์ไปคนละเรื่อง แล้วไอ้ที่ไปฟังปากเปล่ามาเขียน...มันคงเบี่ยงเบนเป้าหมายได้เยอะแหงเลย...โอย ตายแล้ว แล้วนี่ฉันจะไปลอกตำราแล้วมาแปลงสอนผู้ใหญ่ มันจะไม่เป็น "บ่อนทำลาย" ไปเลยหรือ ? ฉันมีปากกาอยู่ในมือ
ช่างหัวมัน...คุณเห่ยได้ ผมก็ห่วยได้...ไม่เสียชาติเกิด
นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่าอย่าหมิ่นผู้ต่ำต้อยกว่า วันหนึ่งเราอาจต้องพึ่งเขา ชีวิตต้องพึ่งพากัน
NEXT